Häfele แข็งแกร่งด้วย Trend setter

หลายคนอาจจะมองว่าความครีเอทีฟคือ ความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกถ่ายทอดออกเป็นความแปลกใหม่ สวยงามเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่สำหรับเฮเฟเล่ ความครีเอทีฟ ถูกนำมาเป็นอาวุธที่ใช้ในการทำการตลาดซึ่งครอบคลุมทั้งในเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งาน เทคโนโลยี และ ดีไซน์ ของสินค้าในแต่ละชิ้นที่อยู่ภายในโชว์รูมของเฮเฟเล่

คุณมาริวิค เฮลสเติร์น CRM Manager อธิบายเสริมต่อว่า “เฮเฟเล่เป็นเทรดคอมคอมปะนี เพราะฉะนั้นความครีเอทีฟจะต้องเกิดขึ้นในทุกส่วนของการทำงานตั้งแต่การเลือกสินค้าว่า แบรนด์ไหนที่มีความเหมาะสมอย่างไรกับตลาดในประเทศไทย แน่นอนว่าสิ่งที่เราให้ความสำคัญต้องมีความเกี่ยวข้องกับคุณภาพสินค้าฟังก์ชั่นการใช้งาน เทคโนโลยี ที่สำคัญคือต้องมีดีไซน์ที่สวยงามตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคเป็นอย่างดี นั่นคือหัวใจหลักที่ทำให้เราสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง”

แต่ด้วยความที่เป็นเทรดดิ้ง ความยากจึงอยู่ที่การมองหาสินค้าให้มีความเหมาะสมกับตลาดและความต้องการของผู้บริโภค นั่นหมายความว่าการซอยแยก Segmentation ของกลุ่มลูกค้าก็ต้องแยกลงไปอีก ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง ครอบครัวใหญ่ ครอบครัวเล็ก ภาคเหนือ ภาคกลาง หรือภาคใต้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรมและพฤติกรรรมการใช้ชีวิต นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการทำตลาดบนความครีเอทีฟ

“ความแตกต่างของไลฟ์สไตล์คนไทยในแต่ละภาคก็จะไม่เหมือนกัน อย่างภูเก็ตก็จะมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่ไม่เหมือนกับทางภาคเหนือ นั่นก็ต้องใช้ความครีเอทีฟเข้าไปในการวิเคราะห์ตลาดทำ Market Survey ก่อนที่จะมีการเลือกสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพราะฉะนั้นสินค้าใหม่ๆ ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ มีความเป็นนวัตกรรม ลูกค้าก็มักจะนึกเราเป็นอันดับแรก วิธีคิด วิธีการทำงานบนพื้นฐานในลักษณะนี้ทำให้เฮเฟเล่สามารถแข็งแกร่งจนเป็น Trendsetter ของอุตสาหกรรม”

คุณมาริวิค เฮลสเติร์น CRM Manager ยังได้ยกตัวอย่างกลุ่มสินค้าที่ได้ยึดกรอบแนวคิดความครีเอทีฟ โดยล้อไปกับ 3 เรื่องหลักคือ ฟังก์ชั่นการใช้งาน เทคโนโลยีที่ทันสมัยและดีไซน์ที่สวยงาม กลุ่มแรก Home Appliances แน่นอนว่าสินค้ากลุ่มนี้ใกล้ตัวกับผู้บริโภคมากที่สุด การเลือก การตัดสินใจจึงไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือคุณสมบัติการใช้งานที่ตอบโจทย์ แต่ต้องมีดีไซน์ที่เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อม เป็นเสมือนกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านไปพร้อมๆ กันด้วย

กลุ่มต่อมาคือ Partition หรือผนังกั้นห้อง ที่ปกติตามท้องตลาดเรามักจะเห็นแบบสำเร็จรูป ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดความไม่ลงตัวของการใช้งานต้องมาปรับเปลี่ยนแก้ไขในหลายๆ จุด แต่สำหรับเฮเฟเล่มีการออกแบบ Partition ให้มีความสวยงามเหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของลูกค้าในทุกรูปแบบ

กลุ่ม 3 คือ กลุ่ม Dialockหรืออุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ เราอาจจะมองว่า ทำไมสินค้ากลุ่มนี้ต้องใช้ความครีเอทีฟ ก็แค่ล็อกให้ปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว แต่เฮเฟเล่มองลึกกว่านั้น มองไปถึงตัวระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ง่าย ปลอดภัยเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละระดับ รวมไปถึงวัสดุที่ใช้ผลิตก็มีคุณภาพระดับมาตรฐานโลก

สุดท้ายคือสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ ด้วยความเร่งรีบในการดำเนินชีวิต สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเตรียมความพร้อมในการเริ่มต้นวันใหม่ เฮเฟเล่จึงยึดแนวคิดในการออกแบบให้อุปกรณืทุกชิ้น ใช้เนื้อที่ให้เป็นประโยชน์ พร้อมตอบสนองทุกการใช้งาน อาทิเช่น ตู้เก็บของพร้อมอ่างล้างหน้าด้วยระบบปิดแบบนุ่มนวล เพื่อเพิ่มพื้นที่สำคัญให้ของใช้ประจำวันของคุณและปิดท้ายสัปดาห์ทำงานด้วย อ่างอาบร้ำพร้อมระบบสเปรย์นวดตัว สร้างความสุขง่ายๆด้วยตัวเอง

“นอกเหนือจาก Know How ที่เราใช้ในการทำงานแล้ว เรายังสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานได้เรียนรู้สัมผัสถึงสินค้าอย่างแท้จริง จุดนี้คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นๆ ทำให้พวกเขาเฝ้าคอยติดตามพฤติกรรมของลูกค้าและการเติบโตของตลาด เพราะการเป็น Trendsetter ได้ก็ต้องใช้ความเข้าใจของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า” คุณมาริวิค เฮลสเติร์น CRM Manager กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณเนื้อหาจาก
นิตยสาร BrandAge